ตอนที่ 35 หยดน้ำพลังลมปราณหยาง - Martial Peak
Aa+
Aa-
reset

ตอนที่ 35 หยดน้ำพลังลมปราณหยาง

หยางไค่ไม่ทราบว่าบุคคลอื่นๆเมื่ออยู่ในเขตแดนกายาเริงอารมณ์ขั้นที่ 7 ภายในร่างกายของพวกเขาจะมีพลังลมปราณหยางเท่าใด แต่มันคงมีไม่มากอย่างแน่นอน การบ่มเพาะพลังลมปรารณในช่วงแรกคงจะเป็นไปอย่างเชื่องช้า แต่เพราะตัวเขามีการฝึกฝนกลยุทธุ์หยางจากตำราสีดำ จึงสามารถดูดซับพลังงานหยางที่อยู่ในโลก และในโลกแห่งนี้จะมีเคล็ดวิชาหรือตำราอื่นๆที่มีความวิเศษและลึกลับเช่นกลยุทธุ์หยาง

ในวันนี้ หลังจากที่หยางไค่ฝึกยุทธุ์จนเสร็จสิ้น เขาค่อยๆ ลืมตาอย่างช้าๆ
หลายวันที่ผ่านมาพลังงานหยางที่เขาดูดซับเข้ามาในร่างกายเรืิ่มมีความหนาแน่นมากขึ้น เส้นชีพจรลมปราณเริ่มมีความรู้สึกอุ่นที่มากขึ้น หยางไค่รู้สึกว่า พลังลมปราณที่อยู่ในร่างกายเริ่มสะสุมจนใกล้จะถึงขีดจำกัดสูงสุดที่ร่างกายของเขาจะรับได้
เมื่อพลังปราณของกลยุทธุ์หยางสะสมจนถึงขีดจำกัดสูงสุด มันจะแปรเปลี่ยนและอยู่ในรูปแบบของเหลว กลายเป็นหยดน้ำพลังลมปราณหยางซึ่งมันจะถูกกักเก็บไว้ในจุดตันเถียน หยดน้ำพลังปราณหยาง สามารถใช้ในการต่อสู้ และยังสามารถแสดงอำนาจต่างๆที่มิอาจคาดเดา ดังนั้น หยางไค่จึงรอคอยมันหย่างคาดหวัง
หยางไค่ลืมตาอย่างช้าๆ ในขณะที่เขากำลังปรับสายตาเพื่อมองไปยังด้านหน้า ทันใดนั้นสายตาที่กำลังจับจ้องไปด้านหน้ามองเห็นบุคคลคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านข้างของเขา หยางไค่แสดงออกมาอย่างตกใจ ในขณะที่เขากำลังฝึกฝนวิชายุทธุ์ เขากลับไม่สามารถสัมผัสได้ว่าบุคคลคนนี้เดินมาหาเขาตั้งแต่ตอนไหน
บุคคลคนนี้ยืนอยู่ข้างๆ เขาและหันหลังให้แก่เขา เขาสวมใส่เสื้อคลุมสีน้ำเงิน เขามีแขนที่สง่างาม รูปร่างที่สูงใหญ่ แม้ว่าผมของเขาจะกลายเป็นสีขาว แต่มันกลับเงาวาวเป็นธรรมชาติ คางของเขาไว้เคราที่เสมือนเคราแพะ เมื่อมองออกไป เขาน่าจะมีอายุไม่ห่างจากเหรัญญิกเม้งแห่งหอวิเศษมากนัก แต่ว่ารัศมีกลิ่นอายความสง่าที่เปล่งประกายออกมาจากตัวเขากลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
เมื่อมองเห็นเขา สมองของหยางไค่ได้มีความคิดที่ว่าเขาเป็นเทพสวรรค์อย่างไม่ได้ตั้งใจ รัศมีกลิ่นอายที่เปล่งออกมาไม่เพียงแตกต่างจากเหรัญญิกเม้งแต่เขารู้สึกว่ารัศมีกลิ่นอายที่กำลังเปล่งประกายออกมาบริสุทธุ์ ขาวสะอาดราวกับกลิ่นอายที่ลอยลงมาจากฟากฟ้า เมื่อเปรียบเทียบกับเหรัญญิกเม้ง มันช่างแตกต่างราวฟ้ากับดิน
แต่ในตอนนี้มือข้างหนึ่งของบุรุษคนนี้ไขว้อยู่ข้างหลัง ส่วนมืออีกข้างกำลังจับเคราของตัวเอง เขากำลังยืนอยู่ตรงหน้าของคุกคุมขังมังกร สายตาของเขาช่างแปลกประหลาด มันแปลกประหลาดจนกลายเป็นความรู้สึกที่ซับซ้อน
บุรุษคนนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขาต้องเป็นผู้อาวุโสที่เป็นนักปราชย์หรือปัญญาชั้นสูงคนหนึ่ง ในขณะเดียวกันเขาอาจจะเป็นผู้อาวุโสที่มีฝีมือในการต่อสู้ที่เยี่ยมยอด !! หยางไค่มีความชัดเจนในจิตใจ เขารีบลุกขึ้นมา แล้วคำนับแสดงความเคารพ : “ศิษย์หยางไค่ แสดงความเคารพต่อผู้อาวุโส !! ”
เมื่อถูกเสียงของหยางไค่รบกวน ชายชราค่อยๆหันหลัง จากนั้นจึงเหลือบมองไปที่หยางไค่ ก่อนจะพยักหน้าและกล่าวตอบอย่างช้าๆ : “อืม ”
“ไม่ทราบว่าศิษย์ควรจะเรียกท่านผู้อาวุโสว่าอย่างไร ?” แม้ว่าหยางไค่จะทราบว่าเขาต้องเป็นผู้อาวุโสระดับสูงของหอประลองยุทธุ์หลิงเซี่ยว แต่หยางไค่ไม่เคยพบเจอกับเขา ดังนั้นเขาจึงต้องไถ่ถาม เพื่อไม่เสื่อมเสียต่อบรรดาศักดิ์ของเขา
ชายชรากล่าวพึมพำเบา ขมวดคิ้วไว้แน่น เสมือนว่าหยางไค่กำลังกล่าวถามคำถามที่ไม่สามารถหาคำตอบได้ จากนั้นเขาจึงกล่าวตอบอย่างช้ๆ : “เจ้าเรียกข้าว่า ผู้อาวุโสสิบเอ็ด ก็พอ ”
ผู้อาวุโสสิบเอ็ด ? หยางไค่รู้สึกสงสัย แม้ว่าผู้อาวุโสของหอประลองยุทธุ์หลิงเซี่ยวจะมีจำนวนมาก แต่ไม่มากพอที่จะมีผู้อาวุที่สิบเอ็ด แต่ในเมื่อเขาเป็นถึงผู้อาวุโส ในเมื่อเขาได้กล่าวเช่นนี้ หยางไค่จึงต้องปฏิบัติอย่างที่เขากล่าว จากนั้นหยางไค่จึงคำนับและกล่าว : “ศิษย์หยางไค่ แสดงความเคารพต่อผู้อาวุโสสิบเอ็ด ”
ผู้อาวุโสสิบเอ็ดหัวเราะเบาๆ ใบหน้าของเขาแสดงออกอย่างเป็นมิตต ก่อนจะกล่าวถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน : “เจ้ากำลังฝึกยุทธุ์ ? ”
“ใช่ ” หยางไค่พยักหน้า
“และมันเป็นทักษะการต่อที่เกี่ยวข้องกับพลังปราณหยาง ? ?”
“ใช่ ‘ หยางไค่ทราบดีว่าคนที่อยู่ตางหน้าเป็นคนที่มีความสามารถที่แข็งแกร่ง ทำไมเขาจะไม่สามารถสัมผัสได้ว่าตนเองกำลังดูดซับพลังงานหยางเพื่อฝึกฝนวิชายุทธุ์ ?
“การฝึกฝนเป็นอย่างไรบ้าง ? ”
“เพิ่งรับการฝึกฝนได้ไม่กี่วัน แต่ว่าความคืบหน้าของมันก็มิได้เลวร้าย ”
ผู้อาวุโสสิบเอ็ดได้กล่าวถามอีกไม่กี่คำถาม หยางไค่จึงกล่าวตอบทุกคำถาม ทำให้จิตใจของเขารู้สึกตื้นตัน ผู้อาวุโสท่านี้เป็นมิตรและอ่อนโยน เขาปฏิบัตต่อศิษย์ที่อยู่ในระดับล่างสุดอย่างเท่าธรรมเทียมและยังเป็นห่วงไถ่ถามศิษย์ที่ไร้ความสามารถเช่นเขา ทำให้จิตใจของหยางไค่ก่อเกิดความรู้สึกดีๆต่อเขา
เมื่อเห็นว่าผู้อาวุโสท่านนี้กล่าวอย่างเป็นมิตร หยางไค่จึงกล่าวถามต่อเขา : “ผู้อาวุโสสิบเอ็ด ศิษย์ฝึกฝนวิชายุทธุ์เป็นเวลาหลายวัน แต่ยังมีข้อสงสัยที่มิอาจหาคำตอบได้ ”
“โอ้ว ไหนกล่าวมาซิ ” ผู้อาวุโสสิบเอ็ดกระทำอย่างกระตือรื้อร้น
“ทำไมเบื้องหลังของคุกคุมขังมังกรจึงมีพลังงานหยางพุ่งออกมา ? ”
ผู้อาวุโสสิบเอ็ดหัวเราะเมื่อได้ยินคำถามนี้ : “มันเป็นเพราะด้านล่างของคุกคุมขังมังกรมีสมบัติที่มีพลังงานหยางอยู่ไงล่ะ ”
หยางไค่หัวเราะอย่างขืมขื่น เขาคิดในใจว่าเรื่องเช่นนี้เขาทราบดี แต่สิ่งที่เขาไม่ทราบก็คือสิ่งที่อยู่เบื้องล่างของคุกคุมขังมังกรคืออะไรกันแน่
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าคุกคุมขังมังกรเกิดขึ้นได้อย่างไร ? ” ผู้อาวุโสสิบเอ็ดได้กล่าวถามหยางไค่อย่างกะทันหัน
แม้ว่าหยางไค่ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสสิบเอ็ดจะทำเพื่ออะไร แต่เขาก็ยังส่ายศรีษะอย่างจริงใจ
ผู้อาวุโสสิบเอ็ดมองไปยังคุกคุมขังมังกร ก่อนจะกล่าวอย่างช้าๆ : “มันสร้างขึ้นจากการฟันของดาบในครั้งเดียว ”
หยางไค่อึ้งเสมือนว่าถูกฟ้าผ่า !! คุกคุมขังมังกร !! มีความกว้างหลายพันจ้าง และยังไม่รู้ว่ามันลึกเท่าไหร่ เพราะมิอาจมองเห็นเบื้องล่างของมัน แต่มันถูกสร้างมาจากการฟันของดาบในครั้งเดียว ? ถ้าหากว่าเป็นคนอืนๆที่ได้ยินเรื่องนี้ คงไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่เขาพูด แต่ว่าผู้อาวุโสที่อยู่ตางหน้าเขาไม่มีเหตุผลที่จะต้องโกหกเขา
แต่ว่าเป็นใครที่สามารถรอยแยกของแผ่นดินจนกลายเป็นคุกคุมขังมังกรด้วยการฟันดาบในครั้งเดียว ? บุคคลนี้มีการบ่นเพาะพลังอยู่ในเขตแดนขั้นที่เท่าไหร่กันแน่ ?
“หลายร้อยปีก่อน สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่หอประลองยุทธุืของข้า ” สายตาของผู้อาวุโสสิบเอ็ดมีความลึกลับและเขายังกล่าวด้วยเสียงต่ำ
หยางไค่ทราบว่าดีว่าผู้อาวุโสคนนี้กำลังจะเปิดเผยความลับบางอย่างที่ไม่มีใครทราบ เขาจึงกลั้นหายใจ ก่อนจะจ้องมองและตั้งใจฟังในสิ่งที่ผู้อาวุโสสิบเอ็ดกำลังจะกล่าว
“ตอนนั้นในขณะที่ปรมาณจารย์กำลังเดินทางผ่านดินแดนนี้ เขาได้พบเจอกับปีศาจที่มีความแข็งแกร่งอย่างสุดซึ้งโดยบังเอิญ ทั้งสองต่อสู้อย่างรุนแรงในสถานที่แห่งนี้ ไม่มีใครทราบรายละเอียดในการต่อสู้ แต่เมื่อถึงนาทีสุดท้ายในการต่อสู้ ปีศาจตนนั้นมีความสามารถในการรับรู้ที่เก่งกล้า มันจึงตวัดดาบที่มีอำนาจเหลือล้นของมัน” ในขณะที่กล่าว ผู้อาวุโสสิบเอ็ดใช้มือทั้งสองแสดงท่าทีในการต่อสู้ และยังแสดงท่าทีการฟันดาบของปีศาจ “เมื่อมันตวัดดาบ และฟันลงไป ทำให้เกิดเป็นคุกคุมขังมังกร !! ปีศาจตนนั้นตกลงไปยังเบื้องล่างของคุกคุมขังมังกร ปรมาจารย์ตามล่ามันลงไปยังเบื้องล่าง เขาต้องใช้ความพยายามที่มากมายและความลำบากแสนเข็ญจึงสามารถฆ่าปีศาจตนนั้น !! ”
“แต่ว่าปีศาจตนนั้นมีความแข็งแกร่งที่มากเกินไป แม้ว่าร่างกายของมันจะตายจิตวิญญานของมันจะสลาย แต่ปรมาจารย์ยังไม่วางใจ ดังนั้นเขาจึงก่อตั้งหอประลองยุทธุ์หลิงเซี่ยวที่นี้ เฝ้าดูแลสถานที่แห่งนี้นานนับสิบปี จนยืนยันได้ว่ามันไร้ซึ่งอันตรายต่อมวลมนุษย์ เขาจึงออกไปจากหอประลองยุทธุ์หลิงเซี่ยว และให้ข้ามายังหอประลองยุทธุ์หลิงเซี่ยวแห่งนี้ ”
“คุกคุมขังมังกรก่อเกิดมาหลายร้อยปี เบื้องล่างของมันมืดมนไร้ซึ่งแสงสว่างแห่งดวงอาทิตย์ หลังจากนั้นยังได้โยนศิษย์ที่ทรยศต่อหอประลองยุทธุ์หลิงเซี่ยวลงไปยังเบื้องล่าง เมื่อเป็นเช่นนี้มันอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เบื้องล่างของมันก่อเกิดสมบัติที่มีพลังหยางก็เป็นได้ และมันยังเป็นเหตุผลที่เจ้าสามารถดูดซับพลังงานหยางจากที่นี้ ”
หยางไค่พยักหน้า กล่าวถามอย่างสงสัย : “การที่ผู้อาวุโสสิบเอ็ดมายังสถานที่แห่งนี้ เพราะว่าท่านต้องการเห็นสมบัติที่อยู่เบื้องล่างว่ามันคืออะไร ? ”
“ข้า ?‘ ใบหน้าของผู้อาวุโสสิบเอ็ดแสดงอย่างแปลกใจ ก่อนจะกล่าวตอบอย่างช้าๆ : “ข้าไม่ได้มาเพื่อดูสมบัติ ข้ามาพบใครบางคน ? ”
“พบใครบางคน?”
ผู้อาวุโสสิบเอ็ดกล่าวตอบด้วยเสียงหัวเราะ : “เมื่อคนเข้าสู่วัยชรา มันจะกล่าวอะไรเยอะแยะ วันนี้ขอให้จบการสนทนาของเราเพียงเท่านี้ เจ้าฝึกฝนวิชายุทธุ์อย่างตั้งใจ แต่อย่าคิดที่จะลงไปยังเบื้องล่างนี้ ด้านล่างเต็มไปด้วยอันตรายที่มากมาย แม้แต่ข้ายังไม่กล้าที่จะลงไป”
หลังจากที่กล่าวจบ ผู้อาวุโสได้หันหลังและเดินจากไป แม้ว่าหยางไค่จะมีคำถามมากมาย แต่ก็ทำได้เพียงเก็บคำถามนั้นไว้กับตัวเอง
เมื่อทำจิตใจของตนเองให้ผ่อนคลาย หยางไค่เริ่มต้นฝึนฝนการควบคุมพลังลมปราณหยางอีกครั้ง เวลานี้การฝึกฝนทักษะการต่อสู้แห่งกลยุทธุ์ทำให้เขาสามารถเคลื่อนไหวพลังลมปราณที่อยู่ในร่างกาย และยังสามารถดูดซับพลังงานหยางอย่างรวดเร็ว
หลายชั่วยามผ่านไป หยางไค่รู้สึกว่าเส้นชีพจรของเขากำลังจะระเบิด แม้แต่จุดตันเถียนยังรู้สึกอัดแน่น เสมือนว่ากินอาหารมากเกินไป จนทำให้ช่องท้องแทบจะระเบิดออกมา
มันกำลังถึงขีดจำกัดสูงสุด ? หยางไค่ไม่แปลกใจแต่กลับปลื้มปิติ เขาจึงตั้งใจมากขึ้น
หลังจากนั้นครึ่งชั่วยาม เส้นชีพจรลมปราณและจุดตันเถียนรู้สึกเบาหวิวอย่างกะทันหัน ความรู้สึกที่เส้นชีพจรลมปราณจะระเบิด ความอึดอันที่จุดตันเถียนมหลายหายไปจนหมด เวลานี้พลังลมปราณที่อยู่ในร่างกายได้พุ่งผสานเข้าไปยังจุดตันเถียน ทันใดนั้นความรู้สึกร้อนได้ปรากฏออกมาและแปรเปลี่ยนเป็นหยดนั้ำ เข้าไปยังจุดตันเถียน หยางไค่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงหยดของหยดน้ำที่เบามาก
หยดน้ำพลังลมปราณหยาง !! ในที่สุดร่างกายของเขาก็ได้สร้างหยดน้ำหยดแรกของพลังลมปราณหยาง !!
 
ติดตามในเพจได้ที่ FB : เทพยุทธ์เหนือโลก Martial Peak
ผู้แปล ธีรวุธ สุขวัฒนกูล

Previous Post
Next Post

3 thoughts on “ตอนที่ 35 หยดน้ำพลังลมปราณหยาง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

error: Content is protected !!